งานวิจัย : วัยรุ่นกับการเปิดรับนิตยสารภาพยนตร์.
รักเอก วรรณพฤกษ์ (2550) นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ทำการวิจัยเรื่องวัยรุ่นกับการเปิดรับนิตยสารภาพยนตร์ โดยทำการศึกษาวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 13-21 ปีจากสถาบันการศึกษา 4 แห่ง ในเขตกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย โรงเรียนหอวัง โรงเรียนฤทธิยะวรรณลัย มหาวิทยาลัยศรีปทุม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ รวมทั้งสิ้น 400 คน ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยด้านประชากรของวัยรุ่น ปัจจัยในด้านการส่งเสริมการขาย และปัจจัยด้านเนื้อหาของนิตยสารภาพยนตร์ในระดับที่แตกต่างกัน มีผลทำให้พฤติกรรมการเปิดรับนิตยสารภาพยนตร์ของวัยรุ่นแตกต่างกัน
รักเอก วรรณพฤกษ์. (2550). วัยรุ่นกับการเปิดรับนิตยสารภาพยนตร์. วิทยานิพนธ์ (การสื่อสารมวลชน). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง. คณะกรรมการที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ : รองศาสตราจารย์ ดร.สมาน งามสนิท, รองศาสตราจารย์ ดร.วิษณุ สุวรรณเพิ่ม, ศาสตราจารย์ ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์.
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะประชากรของวัยรุ่นที่มีผลต่อพฤติกรรมการเปิดรับนิตยสารภาพยนตร์และเพื่อศึกษาลักษณะความพอใจของกลุ่มวัยรุ่นในรูปแบบการส่งเสริมการขายที่มีผลต่อพฤติกรรมการเปิดรับนิตยสารภาพยนตร์ โดยทำการศึกษาวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 13-21 ปีจากสถาบันการศึกษา 4 แห่ง ในเขตกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย โรงเรียนหอวัง โรงเรียนฤทธิยะวรรณลัย มหาวิทยาลัยศรีปทุม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ รวมทั้งสิ้น 400 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การวิเคราะห์ค่าไคล์สแควร์ และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (one-way ANOVA)
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
ด้านประชากร ซึ่งได้แก่ เพศ อายุ รายได้เฉลี่ยต่อครอบครัวต่อเดือน และระดับการศึกษาที่แตกต่างกันมีผลทำให้พฤติกรรมการเปิดรับนิตยสารภาพยนตร์ของวัยรุ่นแตกต่างกันทั้งด้านเวลาที่ใช้ในการอ่านนิตยสารต่อครั้ง ความถี่ในการอ่าน ประเภทของเรื่องย่อและภาพยนตร์ที่ชอบ และสถานที่เลือกซื้อ
ด้านการส่งเสริมการขายในระดับที่แตกต่างกันของนิตยสารภาพยนตร์ มีผลทำให้พฤติกรรมการเปิดรับนิตยสารภาพยนตร์ของวัยรุ่นแตกต่างกัน ทั้งด้านพฤติกรรมการอ่าน ระยะเวลาในการอ่าน สถานที่เลือกซื้อ และประเภทของเรื่องย่อที่ชอบอ่าน ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นที่ศึกษามีความพอใจในรายการส่งเสริมการขายโดยรวมอยู่ในระดับมาก และจากการเปรียบเทียบเรื่องรายการส่งเสริมการขายของนิตยสารภาพยนตร์ 5 ฉบับ ได้แก่ นิตยสารภาพยนตร์ Entertain, Film Stars, Starpics, Magazine และ Top ten ที่มีรูปแบบในการส่งเสริมการขายในลักษณะเดียวกันแต่แตกต่างกันในรายละเอียดของสิ่งที่แจกหรือแถม พบว่า การส่งเสริมการขายของนิตยสารภาพยนตร์ Entertain, Starpics และ Magazine เป็นที่พอใจของกลุ่มวัยรุ่นที่ศึกษา และเลือกที่จะเปิดรับนิตยสารดังกล่าว
ด้านรูปแบบของนิตยสารภาพยนตร์ที่แตกต่างกัน ไม่ทำให้พฤติกรรมการเปิดรับนิตยสารภาพยนตร์ของวัยรุ่นนั้นแตกต่างกัน ส่วนเนื้อหาของนิตยสารภาพยนตร์ที่แตกต่างกันทำให้พฤติกรรมการเปิดรับนิตยสารของวัยรุ่นแตกต่างกัน ในด้านจำนวนนิตยสารภาพยนตร์ที่อ่านต่อเดือนนั้น กลุ่มที่ชอบอ่านเนื้อหาข้อมูลส่วนตัวของดาราจะมีจำนวนความถี่ของนิตยสารที่เปิดรับต่อเดือนมากกว่ากลุ่มที่ชอบอ่านเบื้องหลังของการถ่ายทำภาพยนตร์ และกลุ่มที่ชอบอ่านเรื่องย่อของภาพยนตร์
ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า ปัจจัยด้านประชากรของวัยรุ่น ปัจจัยในด้านการส่งเสริมการขาย และปัจจัยด้านเนื้อหาของนิตยสารภาพยนตร์ในระดับที่แตกต่างกัน มีผลทำให้พฤติกรรมการเปิดรับนิตยสารภาพยนตร์ของวัยรุ่นแตกต่างกัน

