Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

งานวิจัย : รูปแบบการสื่อสารในครอบครัวของพ่อแม่ในเขตกรุงเทพมหานคร

ปาริชาติ  ธาราพัตราพร (2546) นิสิตปริญญาโท  คณะนิเทศศาสตร์  สาขาวิชานิเทศศาสตรพัฒนาการ  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ได้ทำการวิจัยเรื่องรูปแบบการสื่อสารในครอบครัวของพ่อแม่ในเขตกรุงเทพมหานคร  โดยศึกษากับพ่อแม่ที่มีลูกในวัยเด็ก  จำนวน 450 คน ผลการวิจัยพบว่า   ครอบครัวพ่อแม่ในเขตกรุงเทพมหานครที่มีลูกในวัยเด็กมีรูปแบบการสื่อสารในครอบครัวแบบปิดมากที่สุด รองลงมาคือครอบครัวแบบเปิด  พ่อแม่มีการเปิดรับข่าวสารจากสื่อมวลชน จากการดูโทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวีมากที่สุด แม่มีการเปิดรับข่าวสารจากสื่อบุคคล โดยการพูดคุยกับลูกมากที่สุดรองลงมาคือ การพูดคุยกันระหว่างพ่อแม่ และพูดคุยกับสมาชิกในครอบครัวที่อยู่บ้านเดียวกัน ครอบครัวที่มีรูปแบบการสื่อสารแบบเปิดมีปริมาณการเปิดรับข่าวสารจากสื่อมวลชนมากกว่าครอบครัวที่มีรูปแบบการสื่อสารแบบปล่อย   ครอบครัวที่มีรูปแบบการสื่อสารแบบปล่อยมีปริมาณการเปิดรับข่าวสารจากสื่อบุคคลน้อยกว่าครอบครัวที่มีรูปแบบการสื่อสารแบบปิดและแบบเปิด

ปาริชาติ ธาราพัตราพร.  (2546).  รูปแบบการสื่อสารในครอบครัวของพ่อแม่ในเขตกรุงเทพมหานคร.  วิทยานิพนธ์ นศ.ม. (นิเทศศาสตรพัฒนาการ). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.  อาจารย์ที่ปรึกษา:รศ. อุบลวรรณ ปิติพัฒนะโฆษิต.

 

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบการสื่อสารในครอบครัว และการเปิดรับข่าวสารของพ่อแม่ในเขตกรุงเทพมหานครที่มีลูกในวัยเด็ก โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 450 คน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล ประมวลผลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS นำเสนอผลการวิเคราะก์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ แสดงค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และการหาค่าสถิติแบบ One way ANOVA,ตารางไขว้ 2 ตัวแปร (crosstabulation) 

 

ผลการวิจัยพบว่า 

  1. รูปแบบการสื่อสารในครอบครัวพ่อแม่ในเขตกรุงเทพมหานครที่มีลูกในวัยเด็กมีรูปแบบการสื่อสารในครอบครัวแบบปิดมากที่สุด รองลงมาคือครอบครัวแบบเปิด 
  2. พ่อแม่มีการเปิดรับข่าวสารจากสื่อมวลชน จากการดูโทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวีมากที่สุด รองลงมาคือ การอ่านหนังสือพิมพ์ และการฟังวิทยุ 
  3. พ่อแม่มีการเปิดรับข่าวสารจากสื่อบุคคล โดยการพูดคุยกับลูกมากที่สุดรองลงมาคือ การพูดคุยกันระหว่างพ่อแม่ และพูดคุยกับสมาชิกในครอบครัวที่อยู่บ้านเดียวกัน 
  4. ครอบครัวที่มีรูปแบบการสื่อสารแบบเปิดมีปริมาณการเปิดรับข่าวสารจากสื่อมวลชนมากกว่าครอบครัวที่มีรูปแบบการสื่อสารแบบปล่อย ในขณะที่ครอบครัวที่มีรูปแบบการสื่อสารแบบเปิดและแบบปิดมีปริมาณการเปิดรับข่าวสารจากสื่อมวลชนไม่แตกต่างกัน 
  5. ครอบครัวที่มีรูปแบบการสื่อสารแบบปล่อยมีปริมาณการเปิดรับข่าวสารจากสื่อบุคคลน้อยกว่าครอบครัวที่มีรูปแบบการสื่อสารแบบปิดและแบบเปิด ในขณะที่ครอบครัวที่มีรูปแบบการสื่อสารแบบปิด และแบบเปิดมีปริมาณการเปิดรับข่าวสารจากสื่อบุคคลไม่แตกต่างกัน