Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

งานวิจัย : ผลสัมฤทธิ์และเจตคติในการอ่านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน

พิมพ์สุดา เอี่ยมสกุล. (2549).นิสิตปริญญาโท สาขาวิชาการสอนภาษาไทย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ศึกษาเรื่องผลสัมฤทธิ์และเจตคติในการอ่านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กลุ่มตัวอย่างใช้ในการวิจัย คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านแม่ลิด อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการสอนที่ใช้กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน จำนวน 4 แผน ผลการวิจัยพบว่า 1. กลุ่มตัวอย่างมีผลสัมฤทธิ์ในการอ่านหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 2. กลุ่มตัวอย่างมีเจตคติในการอ่านหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01

พิมพ์สุดา เอี่ยมสกุล. (2549).ผลสัมฤทธิ์และเจตคติในการอ่านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน.  วิทยานิพนธ์ (การสอนภาษาไทย) เชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. คณะกรรมการ : รองศาสตราจารย์นราวัลย์ พูลพิพัฒน์, รองศาสตราจารย์ดร.ชูชีพ พุทธประเสริฐ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ในการอ่านและเจตคติในการอ่านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ประชากรที่ใช้ในการวิจัยคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านแม่ลิด อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่กำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2548 จำนวน 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการสอนที่ใช้กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน จำนวน 4 แผน แบบวัดผลสัมฤทธิ์ในการอ่าน และแบบวัดเจตคติที่มีต่อการอ่าน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ในการอ่าน และวัดเจตคติที่มีต่อการอ่านก่อนและหลังเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการทดสอบค่าที (t-test)

ผลการวิจัยพบว่า

  1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้กิจกรรมส่งเสริมการอ่านมีผลสัมฤทธิ์ในการอ่านหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01
  2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้กิจกรรมส่งเสริมการอ่านมีเจตคติในการอ่านหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01