งานวิจัย : ประสิทธิผลของการประเมินตามสภาพจริงในกระบวนการเรียนรู้วิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
สุรินดา บรรจงรักษา (2548) นิสิตปริญญาโท สาขาวิชาการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ทำการวิจัยเรื่องประสิทธิผลของการประเมินตามสภาพจริงในกระบวนการเรียนรู้วิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 1 ห้องเรียน จำนวน 45 คน ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนที่ได้รับการเรียนรู้ภาษาไทยโดยวิธีธรรมชาติบูรณาการกับการประเมินตามสภาพจริงมีความเข้าใจในการอ่านภาษาไทยและมีความสามารถในการเขียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 นอกจากนี้ก็พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียนภาษาไทยในระดับมาก
สุรินดา บรรจงรักษา. (2548). ประสิทธิผลของการประเมินตามสภาพจริงในกระบวนการเรียนรู้วิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การวัดผลการศึกษา). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวีโรฒ. คณะกรรมการควบคุม : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิคม ตังคะพิภพ, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.องอาจ นัยพัฒน์.
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาความเข้าใจในการอ่านจากการประเมินตามสภาพจริงในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการเรียนรู้ภาษาแบบธรรมชาติบูรณาการกับการประเมินตามสภาพจริง 2) เพื่อศึกษาความสามารถในการเขียนจากการประเมินตามสภาพจริงของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการเรียนรู้ภาษาแบบธรรมชาติบูรณาการกับการประเมินตามสภาพจริง 3) เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจในการเรียนภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการเรียนรู้ภาษาแบบธรรมชาติบูรณาการกับการประเมินตามสภาพจริง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2548 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 45 คน โดยกำหนดระยะเวลาในการทดลอง 4 สัปดาห์
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งเป็น เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 20 แผน 2) เครื่องมือประเมินตามสภาพจริง ประกอบด้วย 2.1) แบบประเมินทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน 2.2) แบบสังเกตการทำงานกลุ่ม 2.3) แบบประเมินแฟ้มสะสมงาน เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบทดสอบความเข้าใจในการอ่าน 2) แบบวัดความสามารถในการเขียนภาษาไทย 3) แบบวัดความพึงพอใจในการเรียนภาษาไทย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าสถิติพื้นฐาน และค่า t-test
ผลการวิจัย สรุปได้ดังนี้
- นักเรียนที่ได้รับการเรียนรู้ภาษาไทยโดยวิธีธรรมชาติบูรณาการกับการประเมินตามสภาพจริงมีความเข้าใจในการอ่านภาษาไทยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
- นักเรียนที่ได้รับการเรียนรู้ภาษาไทยโดยวิธีธรรมชาติบูรณาการกับการประเมินตามสภาพจริงมีความสามารถในการเขียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
- นักเรียนที่ได้รับการเรียนรู้ภาษาไทยแบบธรรมชาติบูรณาการกับการประเมินตามสภาพจริงมีความพึงพอใจในการเรียนภาษาไทยอยู่ในระดับมาก

