งานวิจัย : ตัวละครรักร่วมเพศหญิงในนวนิยายไทย
นัยน์ปพร จงสมจิตต์ (2550) นิสิตปริญญาโท สาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ทำวิจัยเรื่อง ตัวละครรักร่วมเพศหญิงในนวนิยายไทย โดยวิเคราะห์ตัวละครรักร่วมเพศหญิงเชิงจิตวิทยาและสังคมในนวนิยายจำนวน 11เรื่อง ซึ่งเป็นผลงานของนักเขียนอาชีพ 5เรื่อง และผลงานของนักเขียนจากเว็บไซต์ “หญิงรักหญิง” จำนวน 6เรื่อง ผลการศึกษา พบว่า ตัวละครจำแนกออกได้เป็น 4 กลุ่ม คือ ตัวละครที่มีบทบาทเป็น “ทอม” “ดี้” และ ตัวละครที่สับสนกับบทบาททงเพศของตนเอง ผู้เขียนใช้ความรู้ทางจิตวิทยาสร้างองค์ประกอบต่างๆ ของตัวละครขึ้นอย่างสมจริง ได้แก่ ภูมิหลังของตัวละคร บุคลิกภาพภายนอกและบุคลิกภาพภายใน ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมรักร่วมเพศ และแนวคิดเกี่ยวกับความรักเพศเดียวกัน นอกจากนี้ตัวละครทั้งสี่กลุ่มได้สะท้อนทัศนคติของหญิงรักร่วมเพศในสังคมไทย และสะท้อนทัศนคติของสังคมที่มีต่อบุคคลกลุ่มนี้ไว้ 3แบบ คือ ทัศนคติด้านบวก ทัศนคติที่เป็นกลาง และทัศนคติด้านลบ นวนิยายทั้ง 11เรื่องทำให้ผู้อ่านรู้จักและเข้าใจพฤติกรรม ความรู้สึกนึกคิดของหญิงรักร่วมเพศ และทัศนคติของสังคมที่มีต่อบุคคลกลุ่มนี้ดีขึ้น
นัยน์ปพร จงสมจิตต์. (2550). ตัวละครรักร่วมเพศหญิงในนวนิยายไทย. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (ภาษาไทย). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. คณะกรรมการควบคุม : ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมเกียรติ คู่ทวีกุล, อาจารย์พิมพาภรณ์ บุญประเสริฐ.
ปริญญานิพนธ์เรื่องนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อวิเคราะห์ตัวละครรักร่วมเพศหญิงเชิงจิตวิทยาและสังคมในนวนิยายจำนวน 11เรื่อง ซึ่งเป็นผลงานของนักเขียนอาชีพ 5เรื่อง และผลงานของนักเขียนจากเว็บไซต์ “หญิงรักหญิง” จำนวน 6เรื่อง
ผลการศึกษา พบว่า ตัวละครจำแนกออกได้เป็น 4 กลุ่ม คือ ตัวละครที่มีบทบาทเป็น “ทอม” “ดี้” และ ตัวละครที่สับสนกับบทบาททงเพศของตนเอง ผู้เขียนใช้ความรู้ทางจิตวิทยาสร้างองค์ประกอบต่างๆ ของตัวละครขึ้นอย่างสมจริง ซึ่งได้แก่ ภูมิหลังของตัวละคร บุคลิกภาพภายนอกและบุคลิกภาพภายใน ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมรักร่วมเพศ และแนวคิดเกี่ยวกับความรักเพศเดียวกัน นอกจากนี้ตัวละครทั้งสี่กลุ่มได้สะท้อนทัศนคติของหญิงรักร่วมเพศในสังคมไทย และสะท้อนทัศนคติของสังคมที่มีต่อบุคคลกลุ่มนี้ไว้ 3แบบ คือ ทัศนคติด้านบวก ทัศนคติที่เป็นกลาง และทัศนคติด้านลบ นวนิยายทั้ง 11เรื่องทำให้ผู้อ่านรู้จักและเข้าใจพฤติกรรม ความรู้สึกนึกคิดของหญิงรักร่วมเพศ และทัศนคติของสังคมที่มีต่อบุคคลกลุ่มนี้ดีขึ้น