งานวิจัย : ชุดการสอนการอ่านออกเสียงวิชาภาษาไทย สำหรับนักเรียนชาวเขาเผ่าเย้า ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้เทปบันทึกภาพเป็นสื่อหลัก
ประชวน เขื่อนเพชร (2542) นิสิตปริญญาโท คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสาร มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้ทำการวิจัยเรื่องชุดการสอนการอ่านออกเสียงวิชาภาษาไทย สำหรับนักเรียนชาวเขาเผ่าเย้า ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้เทปบันทึกภาพเป็นสื่อหลัก กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชาวเขาเผ่าเย้า ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านห้วยกว๊าน จำนวน 21 คน ผลการวิจัยพบว่า ชุดการสอนทั้ง 6 หน่วย มีประสิทธิภาพ 79.05/79.52, 79.52/80.00, 80.71/80.95, 81.19/81.43, 91.19/81.90 และ 81.43/ 82.38 ตามลำดับ เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้จากชุดการสอนโดยผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และนักเรียนชอบเรียนจากชุดการสอนในระดับ มากที่สุด
ประชวน เขื่อนเพชร. (2542). ชุดการสอนการอ่านออกเสียงวิชาภาษาไทย สำหรับนักเรียนชาวเขาเผ่าเย้า ชั้นประถมศึกษาปีที่2 โดยใช้เทปบันทึกภาพเป็นสื่อหลัก. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. (เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสุโขทัย ธรรมาธิราช. อาจารย์ที่ปรึกษา:ศ.ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์ รศ.วาสนา ทวีกุลทรัพย์.
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ (1) เพื่อพัฒนาชุดการสอนการอ่านออกเสียงวิชาภาษาไทย สำหรับนักเรียนชาวเขาเผ่าเย้า ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 2 โดยใช้เทปบันทึกเสียงเป็นสื่อหลักให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 โดยยึดระบบการสอนแผนจุฬา (2) เพื่อศึกษาความก้าวหน้าด้านสัมฤทธิ์ผลทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนจากชุดการสอน และ (3) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่เรียนจากชุดการสอนการอ่าน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชาวเขาเผ่าเย้า ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านห้วยกว๊าน จำนวน 21 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบเจาะจง
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ (1) เครื่องมือต้นแบบชิ้นงาน ได้แก่ ชุดการสอน การอ่านออกเสียงวิชาภาษาไทย โดยใช้เทปบันทึกเสียงเป็นสื่อหลักซึ่งพัฒนา ตามระบบการสอนแผนจุฬา จำนวน 6 หน่วย คือ หน่วยที่ 1 การอ่านออกเสียง พยัญชนะต้น ร,ล หน่วยที่ 2 การอ่านออกเสียงพยัญชนะควบกล้ำ ร หน่วยที่ 5 การอ่านออกเสียงพยัญชนะควบกล้ำ ล หน่วยที่ 4 การอ่านออกเสียงพยัญชนะ สะกด น หน่วยที่ 5 การอ่านออกเสียงพยัญชนะสะกด ก หน่วยที่ 6 การอ่าน ออกเสียงพยัญชนะสะกด บ (2) แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน และ (3) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อชุดการสอนการอ่านออกเสียงวิชา ภาษาไทย โดยใช้เทปบันทึกเสียงเป็นสื่อหลัก การเก็บรวบรวมข้อมูลดำเนินการ โดยการนำชุดการสอนที่สร้างขึ้นไปทดสอบหาประสิทธิภาพด้วยการทดลองแบบเดี่ยว ทดลองแบบกลุ่ม และทดลองภาคสนาม การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาประสิทธิภาพของ ชุดการสอนใช้สูตร E1/E2 การหาความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของผู้เรียนจาก การทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนใช้ t-test และการศึกษาความคิดเห็น ของนักเรียนที่มีต่อชุดการสอนใช้ค่ามัชฌิมเลขคณิตและความเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า ชุดการสอนทั้ง 6 หน่วย มีประสิทธิภาพ 79.05/79.52, 79.52/80.00, 80.71/80.95, 81.19/81.43, 91.19/81.90 และ 81.43/ 82.38 ตามลำดับเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ นักเรียนมีความก้าวหน้า ในการเรียนรู้จากชุดการสอนโดยผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และนักเรียนชอบเรียนจากชุดการสอนในระดับ มากที่สุด