งานวิจัย : การแก้ไขเกินเหตุของ (ล) ในภาษาไทยของบุคลากรประจำสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11
ประภา ภิรมย์ (2542) นิสิตปริญญาโท คณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาภาษาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการวิจัยเรื่องการแก้ไขเกินเหตุของ(ล) ในภาษาไทยของบุคลากรประจำสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 เก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างที่มีการศึกษาระดับสูง ระดับปานกลางและระดับต่ำกลุ่มละ 15 คน ผลการวิจัยพบว่า บุคลากรที่มีการศึกษาระดับสูงมีอัตราการแก้ไขเกินเหตุของ (ล) สูงที่สุด รองลงมาคือบุคลากรที่มีการศึกษาระดับปานกลาง และบุคลากรที่มีการศึกษาระดับต่ำไม่มีอัตราการแก้ไขเกินเหตุของ (ล) อยู่เลย ในการออกเสียงทั้งสองปริบท ส่วนการศึกษาอัตราการแก้ไขเกินเหตุของ (ล) กับตัวแปรเรื่องอาชีพ ผู้วิจัยเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกาศข่าวและบุคลากรอื่นซึ่งมีการศึกษาระดับเดียวกับผู้ประกาศข่าวคือระดับสูง และผลการวิจัยพบว่า บุคลากรอื่นมีอัตราการแก้ไขเกินเหตุของ (ล) สูงกว่าผู้ประกาศข่าวในการออกเสียงทั้งสองปริบทเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ประกาศข่าวมีอัตราการแก้ไขเกินเหตุของ (ล) ในวัจนลีลาการให้สัมภาษณ์สูงกว่าในวัจนลีลาการอ่านออกอากาศในปริบทที่เป็นพยัญชนะเดี่ยว แต่ในปริบทที่เป็นพยัญชนะควบกล้ำผู้ประกาศข่าวมีอัตราการแก้ไขเกินเหตุของ (ล) เท่ากันในทั้งสองวัจนลีลา
ประภา ภิรมย์. (2542). การแก้ไขเกินเหตุของ(ล) ในภาษาไทยของบุคลากรประจำสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11. วิทยานิพนธ์ อ.ม. (ภาษาศาสตร์). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. อาจารย์ที่ปรึกษา: รศ.ดร.อมรา ประสิทธิ์รัฐสินธุ์.
งานวิจัยนี้ศึกษาพฤติกรรมการแก้ไขเกินเหตุของ (ล) หรือการออกเสียง (ล) เป็น [ร] ในภาษาไทยของบุคลากรประจำสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 โดยเปรียบเทียบความสัมพันธ์ของอัตราการเกิดของพฤติกรรมดังกล่าวกับตัวแปรทางสังคม 3 ตัวแปรได้แก่ ระดับการศึกษา อาชีพและวัจนลีลาและนำผลที่ได้มาทดสอบนัยสำคัญทางสถิติด้วยค่าไคสแควร์ สมมติฐานของการวิจัยนี้มี 3 ประการ ได้แก่ (1) บุคลากรที่มีการศึกษาระดับปานกลางมีความถี่ของการออกเสียง (ล) เป็น [ร] สูงที่สุด (2) ระหว่างบุคลากรที่เป็นผู้ประกาศข่าวกับผู้ที่ทำหน้าที่อื่นบุคลากรที่ทำหน้าที่อื่นมีความถี่ของการออกเสียง (ล) เป็น [ร] สูงกว่าผู้ประกาศข่าว (3) ในแง่วัจนลีลาการแก้ไขเกินเหตุจะพบในการอ่านข่าวมากกว่าในการให้สัมภาษณ์ ในการเปรียบเทียบอัตราการแก้ไขเกินเหตุของ (ล) กับตัวแปรเรื่องระดับการศึกษา ผู้วิจัยเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างที่มีการศึกษาระดับสูง ระดับปานกลางและระดับต่ำกลุ่มละ 15 คน
ผลปรากฏว่า บุคลากรที่มีการศึกษาระดับสูงมีอัตราการแก้ไขเกินเหตุของ (ล) สูงที่สุด รองลงมาคือบุคลากรที่มีการศึกษาระดับปานกลาง และบุคลากรที่มีการศึกษาระดับต่ำไม่มีอัตราการแก้ไขเกินเหตุของ (ล) อยู่เลย ในการออกเสียงทั้งสองปริบท ส่วนการศึกษาอัตราการแก้ไขเกินเหตุของ (ล) กับตัวแปรเรื่องอาชีพ ผู้วิจัยเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกาศข่าวและบุคลากรอื่นซึ่งมีการศึกษาระดับเดียวกับผู้ประกาศข่าวคือระดับสูง และผลการวิจัยปรากฎว่าบุคลากรอื่นมีอัตราการแก้ไขเกินเหตุของ (ล) สูงกว่าผู้ประกาศข่าวในการออกเสียงทั้งสองปริบทเช่นกัน สำหรับการศึกษาความสัมพันธ์ของอัตราการแก้ไขเกินเหตุของ (ล) กับตัวแปรวัจนลีลาผู้วิจัยเปรียบเทียบการออกเสียงของผู้ประกาศข่าวในการให้สัมภาษณ์กับการอ่านออกอากาศจริงผลการวิจัยปรากฎว่าผู้ประกาศข่าวมีอัตราการแก้ไขเกินเหตุของ (ล) ในวัจนลีลาการให้สัมภาษณ์สูงกว่าในวัจนลีลาการอ่านออกอากาศในปริบทที่เป็นพยัญชนะเดี่ยว แต่ในปริบทที่เป็นพยัญชนะควบกล้ำผู้ประกาศข่าวมีอัตราการแก้ไขเกินเหตุของ (ล) เท่ากันในทั้งสองวัจนลีลา