งานวิจัย : การเสริมสร้างคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้จากการอ่านวรรณกรรมสำหรับเด็กภาษาไทย ที่พิมพ์ระหว่างปี 2543-2545

จิตติมา ธนะศักดิ์ศิริ (2548) นิสิตปริญญาโท สาขาบรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ทำวิจัยเรื่อง การเสริมสร้างคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้จากการอ่านวรรณกรรมสำหรับเด็กภาษาไทย ที่พิมพ์ระหว่างปี 2543-2545กลุ่มตัวอย่างเป็น นักเรียนโรงเรียนโพธาวัฒนาเสนี จังหวัดราชบุรี จำนวน 2 ห้อง ห้องละ 35 คน สุ่มอย่างง่ายด้วยวิธีการจับสลาก แบ่งเป็นกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ วรรณกรรมสำหรับเด็กที่มีเนื้อหาส่งเสริมคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์ จำนวน 20 ชื่อเรื่อง แบบประเมินคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์ และแบบติดตามผลหลังการอ่าน ผลการวิจัยปรากฎว่า 1.นักเรียนกลุ่มควบคุมมีคะแนนจากการทดสอบก่อนและหลังการทดลองไม่แตกต่างกัน2.  นักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์หลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .053.  นักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์หลังการทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

จิตติมา  ธนะศักดิ์ศิริ. (2548). การเสริมสร้างคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้จากการอ่านวรรณกรรมสำหรับเด็กภาษาไทย ที่พิมพ์ระหว่างปี 2543-2545. ปริญญานิพนธ์ ศศ.ม. (บรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยา ลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. คณะกรรมการควบคุม: รองศาสตราจารย์ พวา  พันธุ์เมฆา. ผู้ช่วยศาสตราจารย์พัชรา  สุทธิสำแดง

การวิจัยครั้งนี้มุ่งเพื่อศึกษาการเสิรมสร้างคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้จากการอ่านวรรณกรรมสำหรับเด็กภาษาไทย ที่มีเนื้อหาส่งเสริมคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์ ที่พิมพ์ระหว่างปี 2543-2545

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ เด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนโพธาวัฒนาเสนี อ.โพธาราม จ.ราชบุรี จำนวน 2 ห้องเรียน ห้องเรียนละ 35 คน สุ่มอย่างง่ายด้วยวิธีการจับสลาก ห้องเรียนหนึ่งเป็นกลุ่มควบคุมและอีกห้องเรียนหนึ่งเป็นกลุ่มทดลอง

เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ วรรณกรรมสำหรับเด็กที่มีเนื้อหาส่งเสริมคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์ จำนวน 20 ชื่อเรื่อง แบบประเมินคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์ และแบบติดตามผลหลังการอ่าน การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการเปรียบเทียบคะแนนคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์ก่อนและหลังการทดลองใช้ค่าสถิติ t-test dependent และ t-test independent

ผลการวิจัยปรากฎว่า

1. นักเรียนกลุ่มควบคุมมีคะแนนจากการทดสอบก่อนและหลังการทดลองไม่แตกต่างกัน

2. นักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์หลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งสอดคล้องกับสมมุติฐานที่ตั้งไว้

3. นักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์หลังการทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งสอดคล้องกับสมมุติฐานที่ตั้งไว้

ข้อเสนอแนะ คือ 1) ผู้บริหารโรงเรียนควรเปิดโอกาสให้บรรณารักษ์และครูผู้สอนได้เข้ามามีบทบาทในการจัดกิจกรรมและจัดหาหนังสือมาไว้ในห้องสมุด เพื่อพัฒนาคุณธรรมให้เกิดขึ้นแก่ตัวเด็ก โดยจัดสรรงบประมาณ ให้สามารถจัดซื้อวรรณกรรมสำหรับเด็กตลอดจนหนังสือเด็กรูปแบบต่างๆ ที่มีเนื้อหาเสริมสร้างคุณธรรมด้านต่างๆ มาจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน 2) บรรณารักษ์ควรจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านของนักเรียนโดยเน้นการอ่านหนังสือที่ส่งเสริมคุณธรรมด้านต่างๆ 3) ควรมีการศึกษาการพัฒนาคุณธรรมบางด้านโดยใช้หนังสือการ์ตูนที่คัดสรรแล้วเพราะขณะนี้ นักเรียนนิยมอ่านหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นกันมาก 4) ควรมีการศึกษาติดตามผลการวิจัยระยะยาวเพื่อประเมินความคงทนของคุณธรรมในกลุ่มทดลอง