Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

งานวิจัย : การพัฒนาทักษะการฟังภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ศศิกุล  ปิยานุกูล (2535)  นิสิตปริญญาโท  คณะครุศาสตร์  สาขาวิชาการสอนภาษาไทย  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ได้ทำการวิจัยเรื่องการพัฒนาทักษะการฟังภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1  กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนนางรอง  อำเภอนางรอง  จังหวัดบุรีรัมย์ 2 ห้องเรียน  จำนวน 80 คน  แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 40 คน กลุ่มควบคุม 40 คน ทำการทดลองโดยกลุ่มทดลองเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการฟังภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มควบคุมไม่ใช้แบบฝึกทักษะการฟังภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณ ใช้เวลากลุ่มละ 12 คาบ ผลการวิจัยพบว่า  กลุ่มทดลองมีการพัฒนาทักษะการฟังภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณสูงกว่ากลุ่มควบคุม และกลุ่มทดลองมีการพัฒนาทักษะการฟังภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง 

ศศิกุล  ปิยานุกูล.  (2535).   การพัฒนาทักษะการฟังภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่1.  วิทยานิพนธ์ ค.ม. (การสอนภาษาไทย).  กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.  อาจารย์ที่ปรึกษา:ศ.ดร.สุจริต เพียรชอบ

 

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะการฟังภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในด้านการหาเหตุผล  การตีความ  การจับใจความสำคัญ  การแยกข้อเท็จจริงจากข้อคิดเห็น การวิเคราะห์  และการประเมินค่า  กลุ่มตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนนางรอง  อำเภอนางรอง  จังหวัดบุรีรัมย์ 2 ห้องเรียน  จำนวน 80 คน  แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 40 คน กลุ่มควบคุม 40 คน ผู้วิจัยได้ทำการทดสอบก่อนการทดลองและนำคะแนนที่ได้มาทดสอบหาค่าที (t-test)ปรากฎว่านักเรียนทั้ง 2 กลุ่ม มีผลสัมฤทธิ์ทักษะการฟังภาษาไทยไม่แตกต่างกัน ทำการทดลองโดยกลุ่มทดลองเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการฟังภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณ  กลุ่มควบคุมไม่ใช้แบบฝึกทักษะการฟังภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณ ใช้เวลากลุ่มละ 12 คาบ จากนั้นทดสอบอีกครั้งหนึ่งนำคะแนนที่ได้มาเปรียบเทียบกับคะแนนสอบก่อนการทดลอง  และเปรียบเทียบกันระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม 

 

ผลการวิจัยพบว่า  กลุ่มทดลองมีการพัฒนาทักษะการฟังภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณสูงกว่ากลุ่มควบคุม และกลุ่มทดลองมีการพัฒนาทักษะการฟังภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05