มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน | Reading Culture Promotion Foundation

งานวิจัย : การพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ฐิตารีย์ จั่นทองคำ. (2548). นิสิตปริญญาโท สาขาการสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างประเทศ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ศึกษาการพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย กรุงเทพฯ จำนวน 24 คน ด้วยวิธีการเรียนแบบร่วมมือประเภทการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ ผลวิจัยพบว่า นักเรียนมีการพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษสูงขึ้นด้วยวิธีการเรียนแบบร่วมมือประเภทการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และนักเรียนมีความคิดเห็นต่อการเรียนด้วยวิธีการเรียนแบบร่วมมือประเภทการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ในระดับสูง โดยมีค่าเฉลี่ย 4.39

ฐิตารีย์ จั่นทองคำ. (2548). การพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยวิธีการเรียนแบบร่วมมือประเภทการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์.
สารนิพนธ์ ศศ.ม. (การสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างประเทศ). กรุงเทพฯ:
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. อาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์:
อาจารย์กุลทิพย์ โรหิตรัตนะ.
 

การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยวิธีการเรียนแบบร่วมมือประเภทการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์
และเพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการอ่านภาษาอังกฤษด้วยวิธีการเรียนแบบร่วมมือประเภทการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2547โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย กรุงเทพฯ จำนวนนักเรียน 24 คน โดยเป็นห้องที่ผู้วิจัยได้รับมอบหมายให้ดำเนินการสอน 1 ห้องเรียน ใช้เวลาในการศึกษาค้นคว้าจำนวน 20 คาบ คาบละ 50 นาที และใช้แบบแผนการทดลองแบบ One Group Pretest and Posttest Design

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า คือ แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการเรียนแบบร่วมมือ
ประเภทการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์จำนวน 4 แผน แบบทดสอบวัดความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษก่อนและหลังการทดลอง แบบทดสอบย่อยจากบทอ่าน แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม และแบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการเรียนแบบร่วมมือประเภทการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์

ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า

  1. นักเรียนมีการพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษสูงขึ้นด้วยวิธีการเรียนแบบร่วมมือประเภทการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
  2. นักเรียนมีความคิดเห็นต่อการเรียนด้วยวิธีการเรียนแบบร่วมมือประเภทการแบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ในระดับสูง โดยมีค่าเฉลี่ย 4.39