การสร้างชุดการสอนเสริมทักษะการอ่านในใจสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
วัฒนาพร คุ้มไข่น้ำ (2536) นิสิตปริญญาโท สาขาเทคโนโลยีทางการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ทำงานวิจัยเรื่อง การสร้างชุดการสอนเสริมทักษะการอ่านในใจสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 70 คน จากโรงเรียนคอนสวรรค์ อำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ ผลการวิจัยพบว่า 1. ชุดการสอนเสริมทักษะการอ่านในใจ มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านความสามารถในการอ่านในใจหลังการใช้ชุดการสอนสูงกว่าก่อนใช้และแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ค่าเฉลี่ยของการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการใช้ชุดการสอน 4 สัปดาห์ สูงกว่าค่าเฉลี่ยจากการทดสอบหลังการใช้ชุดการสอนทันทีอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
วัฒนาพร คุ้มไข่น้ำ, (2536). การสร้างชุดการสอนเสริมทักษะการอ่านในใจสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต. กศ.ม. (เทคโนโลยีทางการศึกษา).มหาสารคาม : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
จุดมุ่งหมาย เพื่อ (1) สร้างชุดการสอนเสริมทักษะการอ่านในใจที่มีประสิทธิภาพสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความสามารถด้านการอ่านในใจก่อนและหลังการใช้ชุดเสริมทักษะการอ่านในใจ (3) เพื่อเปรียบเทียบความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนหลังจากเรียนโดยใช้ชุดการสอนเสริมทักษะการอ่านในใจสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 วิธีการวิจัย กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนคอนสวรรค์ อำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 2 ห้องเรียน รวมนักเรียน 70 คนโดยการสุ่มอย่างง่าย
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มี 5 ชนิดคือ (1) ชุดการสอนเสริมทักษะการอ่านในใจสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1จำนวน 1 ชุด 6 หน่วยการสอน (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนความสามารถในการอ่านในใจสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนความสามารถในการอ่านในใจสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก แยกตามหน่วยการสอน6 หน่วย หน่วยละ 10 ข้อ (4) แบบประเมินความคิดเห็นของผู้มีประสบการณ์และผู้เชี่ยวชาญที่มีต่อการสอนเสริมทักษะการอ่านในใจ ซึ่งเป็นแบบประเมินที่มี 5 ระดับ และ (5) แบบประเมินความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดการสอนเสริมทักษะการอ่านในใจ ซึ่งเป็นแบบประเมินที่มี 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ T-TEST DEPENDENT
ผลการวิจัย
1. ชุดการสอนเสริมทักษะการอ่านในใจ มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านความสามารถในการอ่านในใจหลังการใช้ชุดการสอนสูงกว่าก่อนใช้และแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ค่าเฉลี่ยของการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการใช้ชุดการสอน 4 สัปดาห์ สูงกว่าค่าเฉลี่ยจากการทดสอบหลังการใช้ชุดการสอนทันทีอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01