Happy Reading โดย มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน

การศึกษาผลสัมฤทธิ์ และเจตคติในการเขียนเชิงสร้างสรรค์

ประภา ตันติวุฒิ (2542)  นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน  มหาวิทยาลัย สุโขทัยธรรมาธิราช  ได้ทำการวิจัยเรื่องการศึกษาผลสัมฤทธิ์ และเจตคติในการเขียนเชิงสร้างสรรค์ โดยใช้แบบฝึกที่สร้าง จากนิทานพื้นบ้าน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี  กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านห้วยกะปิ จังหวัดชลบุรี จำนวน 60 คน จาก 18 โรงเรียน ใช้เวลาทดลองกลุ่มละ 69 คาบ  คาบละ 20 นาที ผลการวิจัยพบว่า  ผลสัมฤทธิ์และเจตคติในการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมแตกต่างกัน  โดยกลุ่มทดลองมีผลสัมฤทธิ์และเจตคติในการเขียนเชิงสร้างสรรค์สูงกว่ากลุ่มควบคุม

ประภา ตันติวุฒิ.  (2542).  การศึกษาผลสัมฤทธิ์ และเจตคติในการเขียนเชิงสร้างสรรค์ โดยใช้แบบฝึกที่สร้าง จากนิทานพื้นบ้าน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี.  วิทยานิพนธ์ กศ.ม. (หลักสูตรและการสอน).  กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.  อาจารย์ที่ปรึกษา : รศ.ธีรยุทธ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา  รศ.ดร.สุมาลี สังข์ศรี  รศ.นภาลัย สุวรรณธาดา.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์และเจตคติในการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการสอนโดยใช้แบบฝึกที่สร้างจากนิทานพื้นบ้านกับวิธีสอนปรกติ   การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงกึ่งทดลองมีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน  โดยกลุ่มตัวอย่าง คือ  นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5  ภาคเรียนที่  1 ปีการศึกษา 2542 โรงเรียนบ้านห้วยกะปิ  อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี จำนวน 60 คน ที่ได้มาจากการสุ่มอย่างง่ายจากโรงเรียนสังกัดสำนักงานการประถมศึกษาอำเภอเมือง  จังหวัดชลบุรี จำนวน 18 โรงเรียน


เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่  แบบฝึกที่สร้างจากนิทานพื้นบ้าน  แผนการสอน แบบทดสอบวัดผล สัมฤทธิ์ทางการเขียน  และแบบวัดเจตคติต่อการเขียน  กลุ่มทดลองสอนโดยใช้แบบฝึกที่สร้างจากนิทาน พื้นบ้าน  ส่วนกลุ่มควบคุมสอนโดยวิธีสอนปรกติ  ใช้เวลาทดลองกลุ่มละ 69 คาบ  คาบละ 20 นาที  สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่  ค่าเฉลี่ย (X) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t-test) โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS for Windows
ผลการวิจัยปรากฏว่า  ผลสัมฤทธิ์และเจตคติในการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยกลุ่มทดลองมีผลสัมฤทธิ์และเจตคติในการเขียนเชิงสร้างสรรค์สูงกว่ากลุ่มควบคุม