เกี่ยวกับเรา
เว็บไซต์ www.happyreading.in.th
พื้นที่กลางของข้อมูล ความรู้ พลังแห่งการอ่าน
ร่วมสื่อสารสร้างเสริมให้เกิดวัฒนธรรมการอ่านสู่สังคมสุขภาวะ
รู้จักมูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน
ดำเนินงานร่วมขับเคลื่อนให้เกิดสังคมการอ่านตั้งแต่ 4 สิงหาคม 2552 ในนาม “สถาบันสื่อสร้างสรรค์และวัฒนธรรมการอ่าน” ต่อมาได้จดทะเบียนเป็น “มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน” ในวันที่ 25 สิงหาคม 2559 เป็นองค์กรสร้างสรรค์นวัตกรรมสื่อร่วมสร้างวัฒนธรรมการอ่านเพื่อพัฒนาศักยภาพมนุษย์
รายชื่อคณะกรรมการของมูลนิธิฯ
ที่ปรึกษา
วัลลภา นีละไพจิตร อดีตนายกสมาพันธ์สมาคมสตรีมุสลิมแห่งประเทศไทย
จิราภรณ์ ทิพยศุภลักษณ์ นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการพิเศษ
ชัยฤทธิ์ ศรีโรจน์ฤทธิ์ นักเขียนและบรรณาธิการอิสระ
กรรมการ
สุดใจ พรหมเกิด ประธาน
โอภาส เชฏฐากุล รองประธาน
ระพีพรรณ พัฒนาเวช กรรมการ
รศ.ดร.เกศินี ประทุมสุวรรณ กรรมการ
พญ.ปุษยบรรพ์ สุวรรณคีรี กรรมการ
พรรณทิพย์ เพชรมาก กรรมการและเหรัญญิก
สรวิชญ์ สุรชวาลา กรรมการและเลขานุการ
วิสัยทัศน์
วัฒนธรรมสื่อสร้างสรรค์จึงจะสร้างสังคมสร้างสรรค์
พันธกิจ
มีบทบาทประสานความร่วมมือ กระตุ้น สนับสนุน สานพลัง และสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านเพื่อสิทธิเด็กปฐมวัยสู่สังคมสุขภาวะ
ปรัชญา
สร้างเสริมการอ่านให้เป็นวัฒนธรรม คือการลงทุนเพื่อสังคมอนาคตที่สร้างสรรค์
ความสำคัญของการวางรากฐาน “การอ่าน” ในเด็กปฐมวัย
“การอ่าน” เป็นปัจจัยสำคัญของกระบวนการศึกษาเรียนรู้ตลอดชีวิต สร้างภูมิคุ้มกัน พัฒนาจิตใจ และพัฒนาทักษะสู่การเป็นพลเมืองที่ตื่นรู้ เพื่อร่วมสร้างสรรค์สังคมและประเทศชาติ องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ประกาศให้การรู้หนังสือเป็นสิทธิมนุษยชน เป็นพลังแห่งศักดิ์ศรี เป็นพื้นฐานความเข้มแข็งของสังคม และเป็นฐานรากของการพัฒนาที่ยั่งยืน อันจะก่อความรุดหน้าในทุกด้าน นับแต่เรื่องการดูแลสุขภาพ ความปลอดภัยด้านโภชนาการ การขจัดความยากจน ตลอดจนการสร้างเสริมการมีงานทำที่เหมาะสม
การอ่านออกเสียงให้เด็กฟังตั้งแต่ปฐมวัยช่วยสร้างความสุข ความเพลิดเพลิน ช่วยสร้างคลังคำศัพท์ การจับใจความ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ จากข้อค้นพบของ ดร.เบตตี้ ฮาร์ต (Betty Hart) และ ดร.ท็อด ริสลีย์ (Todd Risley) แห่งมหาวิทยาลัยแคนซัส ได้ทดลองเก็บข้อมูลของครอบครัว กลุ่มตัวแทนทางเศรษฐกิจสามกลุ่ม คือ กลุ่มสวัสดิการ ชนชั้นแรงงาน และชนชั้นวิชาชีพ เป็นเวลา 4 ปี พบว่า ครอบครัวส่วนใหญ่มีสัญชาตญาณการเลี้ยงลูกที่ดี ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะทางเศรษฐกิจแบบใด แต่มีความแตกต่างอย่างมีผลสำคัญ คือ เด็กสี่ขวบจากชนชั้นวิชาชีพได้ยินคำศัพท์ 45 ล้านคำ เด็กชนชั้นแรงงานได้ยินคำศัพท์ 26 ล้านคำ และเด็กจากชนชั้นพึ่งสวัสดิการได้ยินคำศัพท์เพียง 13 ล้านคำ นั่นหมายถึง เด็ก 1 คน มีความเหลื่อมล้ำทางกระบวนการเรียนรู้ถึง 32 ล้านคำ สอดคล้องกับงานศึกษาวิจัยของนักสังคมวิทยา จอร์จ ฟาร์กัส (George Farkas) และเคิร์ต เบรอน (Kurt Beron) ที่พบว่า เด็กจากฐานะทางเศรษฐกิจต่ำกว่าจะมีคลังคำศัพท์น้อยกว่า เมื่อเริ่มเข้าเรียนจะล้าหลังกว่าเด็กอื่น 12 – 14 เดือน เมื่อโตขึ้นก็ยังชดเชยความรู้แทบไม่ได้
กลยุทธ์การดำเนินงาน : Strategic
1. พัฒนา สร้างสรรค์ ส่งเสริมสื่อสร้างสรรค์และการสื่อสารเพื่อคุณภาพการอ่าน
2. เพิ่มพื้นที่การเข้าถึงหนังสือและการอ่านในกลุ่มเปราะบางโดยเฉพาะกลุ่มเด็กปฐมวั
3. สานพลังเครือข่ายขับเคลื่อนให้เกิดวัฒนธรรมการอ่านทั้งในระดับพื้นที่และนโยบาย
ติดต่อมูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน
มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน (Reading Culture Promotion Program)
ได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ที่อยู่ : เลขที่ 476 หมู่บ้านเงาไม้ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 67 แยก 3
ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700
- TEL : 02-424-4616-7 FAX : 02-8811-877
- E-mail : happy2reading@gmail.com
- Website : www.happyreading.in.th
- Facebook Page: อ่านยกกำลังสุข
www.facebook.com/HappyReadingNews - Youtube : The Reading อ่านสร้างสุข
- www.youtube.com/@HappyreadingMedia


