มูลนิธิสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน | Reading Culture Promotion Foundation

งานวิจัย : การศึกษาความสามารถในการอ่านของเด็กที่มีปัญหาในการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบดีไอ

วิมล  เถาวัลย์ (2550)  นิสิตปริญญาโท  สาขาวิชาการศึกษาพิเศษ   มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ  ได้ทำการวิจัยเรื่องการศึกษาความสามารถในการอ่านของเด็กที่มีปัญหาในการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบดีไอ  โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนที่มีปัญหาในการเรียนรู้ในระดับช่วงชั้นที่ 1 (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3)  ภาคเรียนที่ 2  ปีการศึกษา 2549 ของโรงเรียนบ้านสามเหลี่ยม  จำนวน 5 คน   ผลการวิจัยพบว่า  หลังจากที่ได้รับวิธีการสอนแบบดีไอเด็กที่มีปัญหาในการเรียนรู้มีความสามารถในการอ่านคำสูงกว่าก่อนใช้วิธีการสอนแบบดีไออย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05  และความสามารถในการอ่านคำหลังใช้วิธีการสอนแบบดีไออยู่ในระดับดี

วิมล  เถาวัลย์.  (2550).  การศึกษาความสามารถในการอ่านของเด็กที่มีปัญหาในการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบดีไอ.  ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การศึกษาพิเศษ). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวีโรฒ.  คณะกรรมการควบคุม : ศาสตราจารย์ ดร.ผดุง  อารยะวิญญู, ดร.ชนม์กรณ์  วรอินทร์.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสามารถในการอ่านของนักเรียนที่มีปัญหาในการเรียนรู้หลังจากที่ได้รับการสอนแบบดีไอ  และเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านของนักเรียนที่มีปัญหาในการเรียนรู้ก่อนและหลังการสอนโดยใช้วิธีการสอนแบบดีไอ  กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนที่มีปัญหาในการเรียนรู้ในระดับช่วงชั้นที่ 1 (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3)  ภาคเรียนที่ 2  ปีการศึกษา 2549 ของโรงเรียนบ้านสามเหลี่ยม  จำนวน 5 คน  ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง  และใช้เวลาในการทดลอง 8 สัปดาห์  สัปดาห์ละ 3 วัน  รวม 24 ครั้ง

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย  ได้แก่  แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบดีไอ  และแบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น  สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล  คือ ร้อยละ  ค่าเฉลี่ย  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบของวิลคอกซัน (The  Wilcoxon  Matched  Pairs  Signed-Ranks  Test)

ผลการวิจัย  สรุปได้ดังนี้

  1. เด็กที่มีปัญหาในการเรียนรู้มีความสามารถในการอ่านคำหลังจากที่ได้รับวิธีการสอนแบบดีไอในระดับดี
  2. เด็กที่มีปัญหาในการเรียนรู้มีความสามารถในการอ่านก่อนและหลังจากการใช้วิธีการสอนแบบดีไอสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05