การพัฒนาทักษะการอ่านการเขียนภาษาไทยของนักเรียนชาวไทยภูเขา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้สื่อประถม
สุภาภรณ์ สิงห์คำ, (2553). นักศึกษาปริญญาโท สาขาประถมศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ทำการศึกษาวิจัยเรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านการเขียนภาษาไทยของนักเรียนชาวไทยภูเขา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้สื่อประถม กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552 โรงเรียนหลวงพัฒนาบ้านขุนวาง อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 29 คน ผลการศึกษาทำให้ได้แผนการจัดการเรียนรู้การอ่านและการเขียนภาษาไทยโดยใช้สื่อประสมจำนวน 12 แผน รวมเวลาทั้งสิ้น 21 ชั่วโมง ซึ่งแผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างขึ้นสามารถพัฒนาทักษะการอ่านการเขียนภาษาไทยของนักเรียน และพบว่าคะแนนทักษะการอ่านและการเขียนของนักเรียนสูงขึ้นกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ร้อยละ 65.00 โดยมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 72.73
สุภาภรณ์ สิงห์คำ, (2553). การพัฒนาทักษะการอ่านการเขียนภาษาไทยของนักเรียนชาวไทยภูเขา ชั้นประถม
ศึกษาปีที่ 5 โดยใช้สื่อประถม. สารนิพนธ์. ศษ.ม.(ประถมศึกษา). เชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. คณะกรรมการที่ปรึกษาการค้นคว้าแบบอิสระ : รศ. วีณา วโรตมะวิชญ และ ผศ. ดร. รัชชุกาญจน์ ทองถาวร
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและใช้แผนการจัดการเรียนรู้สำหรับนักเรียนชาวไทยภูเขา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้สื่อประสม และเพื่อศึกษาทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทยของนักเรียนชาวไทยภูเขา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้สื่อประสม กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552 โรงเรียนหลวงพัฒนาบ้านขุนวาง อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 29 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้การอ่านและการเขียนภาษาไทยโดยใช้สื่อประสม จำนวน 12 แผน รวมเวลาทั้งสิ้น 21 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทยจำนวน 1 ฉบับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยค่าร้อยละ แล้วนำไปเทียบกับเกณฑ์การวัดและประเมินผลร้อยละ 65.00 และนำเสนอข้อมูลในรูปแบบตารางประกอบคำบรรยาย
ผลการศึกษาทำให้ได้แผนการจัดการเรียนรู้การอ่านและการเขียนภาษาไทยโดยใช้สื่อประสมจำนวน 12 แผน รวมเวลาทั้งสิ้น 21 ชั่วโมง ซึ่งแผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างขึ้นสามารถพัฒนาทักษะการอ่านการเขียนภาษาไทยของนักเรียน และพบว่าคะแนนทักษะการอ่านและการเขียนของนักเรียนสูงขึ้นกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ร้อยละ 65.00 โดยมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 72.73

